ศตวรรษของปีศาจ : อำนาจของปีศาจที่ทำต่อมนุษย์ [2]

จากใน ตอนที่ 1 คาทอลิกมองเรื่องนี้อย่างไร เราได้ทราบแล้วว่า ปีศาจในมุมมองของพระศาสนจักรคาทอลิก คือ จิตวิญญาณที่มีพลังงานชั่วร้าย และ สุมหัวรวมตัวกันอยู่ในนรก เพื่อจะทำร้ายมนุษย์ผ่านร่างกายของมนุษย์

โดยอิทธิพลความชั่วร้ายของปีศาจ ที่อาจสำแดงปรากฏต่อมนุษย์ได้นั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

1. Infestation (รุกล้ำ)

เป็นระดับการรบกวนที่ต่ำสุด คือ การรุกรานของปีศาจที่มีต่อ สิ่งของ สถานที่ หรือ แม้แต่สัตว์ ทำให้สถานที่นั้นๆ หรือ สิ่งของนั้น ๆ เหมือนต้องคำสาปชั่วร้าย ซึ่งการสำแดงอำนาจของปีศาจในระดับนี้สามารถขับไล่ได้ด้วยการเสก (อวยพรด้วยพระนามของพระเจ้า) สถานที่ เสก (อวยพร) วัตถุ เพื่อขับไล่จิตชั่วร้าย ณ ที่นั้นออกไป

2. Vexation (รังควาญ)

ด้วยการหลอกหลอนเหยื่อ และ ส่งผลให้ผู้ถูกหลอก ถูกประจญ เกิดความหวาดกลัว อับโชค (จังหวะชีวิตไม่ดี) ล้มเหลวในหน้าที่การงาน หรือ มีสุขภาพทรุดโทรม

3. Obsession (ครอบงำ)

เหยื่อที่ถูกครอบงำ จะไม่สามารถควบคุมความคิดตัวเองได้ จิตชั่วร้ายจะมีอิทธิพลเหนือความคิดของเหยื่อ ให้เหยื่อมีความทุกข์ มีความคิดในแง่ลบ และปราศจากซึ่งความชื่นชมยินดีในชีวิต

4. Possession (สิงสู่)

การเข้าสิงเป็นระดับที่เข้าขั้นอันตราย และการจะขจัดปีศาจ หรือ จิตชั่วร้ายที่สิงสู่เหยื่อได้ ต้องอาศัยพิธีกรรมการไล่ผี อาศัย Exorcist  และ การสวดภาวนา มาเยียวยารักษาเท่านั้น ซึ่งในบางกรณีที่การสิงสู่อันตราย อาจต้องใช้เวลาเป็นปีในการขับไล่จิตชั่วร้ายนั้นเลยทีเดียว

ซาตานเข้าสิงเหยื่อ และ มีอำนาจควบคุมเหนือร่างกายของเหยื่อโดยสมบูรณ์ มันสามารถบังคับเหยื่อให้พูดและกระทำสิ่งชั่วร้ายได้

ซึ่งการกระทำของเหยื่อนี้ถือว่าอยู่ภายใต้การครอบงำของจิตชั่วร้าย ที่เหยื่อไม่มีอำนาจควบคุมต่อการกระทำของตน หรือขัดขืนอะไรได้

ดังนั้น การกระทำของเหยื่อไม่ถือว่าเป็นบาป เพราะเงื่อนไขในการทำให้เกิดบาป คือ การรู้ตัว และ เต็มใจกระทำ

5. Willful Subjugation (ยินยอมตกเป็นทาส)

เป็นการที่เหยื่อยอมรับ ยอมตกเป็นทาสรับใช้ปีศาจด้วยความรู้ตัวและเต็มใจ  ส่วนมากจะเกิดผ่านพิธีกรรมบูชาปีศาจ บูชาซาตาน ทั้งหลาย

รวมถึง มิสซาดำ (พิธีการนมัสการซาตาน) การลบหลู่ไม้กางเขน การทุราจารศีลมหาสนิท (กระทำเหยียบย่ำต่อแผ่นปัง) และ การลบหลู่ กระทำการอันน่าบัดสีต่อสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ด้วย

กลุ่มคนที่กระทำการดังกล่าวแทบไม่เคยได้รับการเยียวยา เพราะตนเองยินยอมพร้อมใจด้วยความสมัครใจ และ ปฏิเสธการ Exorcism ด้วยตัวเอง

สาเหตุของการถูกประจญและการเข้าสิง

1. พระเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดการประจญ การทดลองขึ้น เพื่อเป็นการทดลอง ทดสอบจิตวิญญาณของบุคคลผู้นั้น และเพื่อให้บุคคลนั้นๆ มีความเชื่อ ความสุภาพถ่อมตน และเติบโตทางจิตวิญญาณมากขึ้น
   
   
2. เกิดจากอาคมคุณไสยที่พวกพ่อมดหมอผีกระทำคุณไสย อาคม มนต์ดำ เพื่อยืมอำนาจปีศาจ ในการสาปแช่งทำร้ายบุคคลที่ตนต้องการ (เหตุฉะนั้นพระเจ้าจึงได้เกลียดคนทรงเจ้า คนกระทำคุณไสย การดูดวง)
   
   
3. ตกอยู่ในบาปหนัก คือ ผู้ที่ได้ประกอบบาปหนักและยังดำรงอยู่ในสภาพของความบาปนั้นโดยไม่มีการสำนึกเสียใจ เช่น การทำแท้ง การอยู่กินกันก่อนสมรส  และไม่คิดที่จะแก้ไข หรือ ออกจากสภาพบาปนั้น
   
   
4. หมกมุ่นเกี่ยวข้องกับพวกไสยศาสตร์ หมกมุ่นอยู่กับเรื่องเหนือธรรมชาติ ดวงชะตา ไสยศาสตร์ต่าง ๆ เช่น ชอบดูหมอ หาคนทรง เล่นผีถ้วยแก้ว ลองอาคมมนต์ดำ หรือ หมกมุ่นกับพวกไสยศาสตร์ต่าง ๆ  ซึ่งคนที่หมกมุ่นเกี่ยวกับไสยศาสตร์ ดูดวง ดูหมอ เช่นนี้ แม้จะไม่ใช่การบูชาซาตาน หรือ กราบไหว้ปีศาจ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกจิตชั่วร้ายล่อหลอก ครอบงำ หรือเข้าสิงได้ง่าย
   
   
   

ลักษณะที่เด่นชัด 4 ประการของผู้ถูกผีสิง
เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคกลาง และเป็นเช่นนี้จนถึงทุกวันนี้

1. มีแรง พละกำลังเหนือคนปกติทั่วไป
2. พูดภาษาแปลก ๆ หรือ พูดภาษาที่เจ้าตัวไม่รู้ได้
3. รู้ในสิ่งที่เจ้าตัวไม่มีทางรู้ได้โดยปกติ
4. มีความหวาดกลัว เกลียดชังอย่างรุนแรงต่อเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เช่น ไม้กางเขน, พระคัมภีร์, รูปภาพศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ

เรียบเรียงเนื้อหาจาก : นิวมานา