ในขณะที่บรูโนกำลังเขียนสาส์นเพื่อประกาศต่อต้านพระนางมารีย์ ลูก ๆ ก็ร้องเรียกเขา “พ่อๆ! พ่อมาช่วยหาลูกบอลที”
เพราะเจียนฟรังโกอยู่เฝ้าเสื้อผ้าที่เขาถอดเพื่อวิ่งเล่น ส่วนอิโชลานั้น เธอออกไปเก็บดอกไม้ฝากแม่ จึงเป็นอันว่านายบรูโนจะต้องไปหาลูกบอลกับการ์โลเท่านั้น
เมื่อบรูโนหาลูกบอลเจอแล้ว ก็กลับมายังที่เดิม แต่ว่า เจียนฟรังโกลูกชายคนเล็กหายไป เขาจึงเดินตามหาเจียนฟรังโก จนถึงในถ้ำที่เคยใช้เป็นที่ทิ้งขยะ ก็ไปพบเด็กน้อย อยู่ในท่าคุกเข่าพนมมือเหมือนกำลังสวด นัยน์ตาเป็นประกายและยิ้ม เขาได้ยินลูกพูดย้ำว่า
“ผู้หญิงสวยจัง! ผู้หญิงสวยจริงๆ”
บรูโนตกใจประหม่าเพราะในครอบครัวไม่มีใครสอนลูกให้แสดงอากับปกิริยาสวดเช่นนี้ เขาจึงถามลูกว่า “ลูกว่าอะไร เจียนฟรังโก ? ลูกทำอะไร ? พ่อบอกลูกไม่ใช่หรือไม่ให้มาที่นี่ เพราะที่นี่กลิ่นไม่ดี”
แต่หนูน้อยไม่ตอบและไม่กระดุกกระดิก เพียงแต่ย้ำว่า “ผู้หญิงสวยเหลือเกิน”
“ถ้ำนี้ถูกเวทมนต์คาถาหรือนี่?” บรูโนคิดในใจ แล้วจึงเรียกอิโซลา ถามว่า ”เจียนฟรังโกว่าอะไร? มีอะไรอยู่ข้างใน? เห็นอะไรบ้างไหม?”
“ไม่เห็นค่ะ” เด็กหญิงตอบ
แต่แล้วจู่ ๆ อิโซลาเธอก็คุกเข่าลง และในมือถือดอกไม้ที่เก็บมา ตาจ้องเขม็ง พูดตะกุกตะกังเหมือนน้องชายว่า “ผู้หญิงสวยมาก! ผู้หญิงสวยเหลือเกิน!”
บรูโนรู้สึกหงุดหงิดเรียกการ์โลบ้าง “มานี่! อิโชลากับเจียนฟรังโกทำอะไร รู้ไหม? หรือว่าลูกสามคนชวนกันเล่นแบบนี้? ทำไมไม่พูดแบบเขาบ้างว่า ผู้หญิงสวยเหลือเกิน?”
“เอ๊ะ!” การ์โลแสดงอาการแปลกใจ แต่พอพูดเท่านี้ การ์โลก็คุกเข่าลงเหมือนกัน พนมมือดวงตาสุกใสเหมือนกับคนถูกสะกดและพูดย้ำเช่นเดียวกันว่า “ผู้หญิงสวยเหลือเกิน!”
บรูโนร้องว่า “เกินไปแล้ว ยืนขึ้น การ์โล แล้วออกไป! พ่อเบื่อเต็มทีแล้ว” บรูโนพยายามจับการ์โลให้ลุกขึ้นแต่ยกไม่ขึ้น เพราะหนักเหลือเกิน
บรูโนรู้สึกกลัว หันมาพูดกับอิโชลาว่า “คุกเข่าทำไม? ยืนขึ้นอย่าทำเหมือนการ์โล”
เขาออกแรงเต็มที่พยายามจับลูกสาวให้ลุกขึ้น แต่ไม่สำเร็จและก็ทำไม่สำเร็จเช่นเดียวกันสำหรับเจียนฟรังโก ลูกคนเล็ก
บรูโนท้าทายเวทย์มนต์
บรูโนคิดในใจว่า “ใครมาใช้เวทย์มนต์คาถากับลูกของเราหนอ? ในถ้ำนี้มีแม่มดด้วยหรือยังไง? หรือว่าเป็นผี?”
แล้วเขาร้องเสียงดัง “เจ้าที่อยู่ข้างในเป็นใคร? ออกมาข้างนอกซิ!”
ไม่มีคำตอบ เขามองดูลูกทั้งสามด้วยความตื่นตกใจ! ถึงจะลูบไล้ปลอบใจ ลูกก็คงอยู่เฉยๆ เหมือนกับกลายเป็นหิน
บรูโนร้องขอให้พระเจ้าช่วย
บรูโนเล่าว่า เขารู้สึกถึงความกลัวและใบหน้าซีดเผือด และเขาตกใจสุดขีด วิ่งออกมาจากถ้ำและเงยหน้าไปบนฟ้า ร้องวิงวอนว่า “ช่วยด้วย! พระเจ้าข้า”
พอร้องขอให้พระเจ้าช่วยแล้วบรูโนก็เห็น มือขาว ๆ สองมือเคลื่อนไปทางนัยน์ตาของเขาเหมือนกับจะยกม่านที่บังตาออก เขารู้สึกอยู่ในที่มืดมิด แต่ทันใดนั้น แสงสว่างรุ่งโรจน์ดวงหนึ่งปรากฏขึ้นที่มุมหนึ่งของถ้ำแจ่มจรัสยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างหายหมด ทั้งพื้นดินและพุ่มดอกไม้
ขณะเดียวกันเขารู้สึกตัวเบา เบาเหมือนกับว่าไม่มีร่างกายแล้วและบัดดลนั้นเอง ตรงศูนย์กลางความสว่าง เขามองเห็น “หญิงสวยงาม” คนนั้น ซึ่งลูกทั้งสามเห็นแล้ว
ฉันคือสตรีแห่งวิวรณ์
“ฉัน คือ พรหมจารีที่มาไขแสดง เธอนั้นเบียดเบียนฉัน แต่บัดนี้ พอเสียที !”
สตรีงามผู้นั้นเปล่งแสงสีทอง สว่างเจิดจ้า เท้าเปล่าของเธอยืนอยู่บนหินก้อนหนึ่ง เสื้อคลุมสีเขียวทับบนอาภรณ์สีขาว มีผ้าคาดเอวสีกุหลาบ และในมือถือหนังสือเล่มหนึ่งชิดกับตัว
เธอใช้มือซ้ายชี้ให้ดูของต่าง ๆ ซึ่งวางอยู่แทบเท้าของเธอ บรูโนเห็นเสื้อสีดำที่ฉีกขาดกับกางเขนอันหนึ่งซึ่งหักแล้ว ครั้งแล้วหญิงนั้นก็กลับอยู่ในท่าเดิมพูดว่า
“ฉัน คือ สตรีพรหมจารีที่มาไขแสดง ผู้สัมพันธ์กับพระตรีเอกภาพ ฉัน คือ ธิดาของพระบิดา มารดาของพระบุตร และ พระวิหารของพระจิต (พระวิญญาณบริสุทธิ์) ฉัน คือ พรหมจารีแห่งพระคัมภีร์วิวรณ์”
“เธอนั้นข่มเหงฉัน แต่บัดนี้ จงหยุดได้แล้ว”
“จงเข้ามาในคอกแกะซึ่งเป็นพระอาณาจักรสวรรค์ในโลกนี้เถิด พระวาจาที่พระเจ้าทรงสัญญานั้นไม่วันเปลี่ยนแปลง
ในวันศุกร์ต้นเดือน 9 ครั้งที่เธอได้ทำพลีกรรม ก่อนที่จะหลงเข้าไปในหนทางแห่งความโป้ปดนั้น จะได้ช่วยให้เธอรอด”
นี่ใครกันหนอ ปรากฏตัวขึ้นมาดั่งรุ่งอรุณ
งามดั่งดวงจันทร์ สดใสดั่งดวงตะวัน
งามสง่าดั่งดวงดาราที่เคลื่อนคล้อย?
เพลงซาโลมอน บทที่ 6 ข้อที่ 10
เรียบเรียงจาก นิวมานา