ความเชื่อเที่ยงแท้ และความกล้าหาญ
เปรียบเสมือนว่าว
ยิ่งมีลมต้าน มักยิ่งร่อนสูงขึ้น.
“ส่วนผู้ที่รอคอยพระเจ้า จะฟื้นฟูพลังของตนเอง
เขาจะมีปีกโผบินดังเช่นนกอินทรีย์
เขาจะวิ่งแต่ก็ไม่เหน็ดเหนื่อย เขาจะเดินแต่ก็ไม่เป็นลม (อิสยาห์ 41:31)
ผู้ที่นำแสง อาทิตย์ เข้ามาในชีวิตของผู้อื่น
ย่อมไม่สามารถกั้นแสงนั้น
จากชีวิต ของตนเองได้.
“อย่าหลงผิด ไม่มีใครหลอกพระเป็นเจ้าได้
สิ่งใดที่ มนุษย์หว่านไว้ เขาก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น” (กาลาเทีย 6:7)
เราจะรู้ซึ้งถึงความเชื่อ ก็ต่อเมื่อ
เราเริ่มสั่งสอนลูกหลาน.
“ฝ่ายท่านผู้เป็นบิดา อย่ายั่วให้บุตรของท่านเกิดโทสะ
แต่จงอบรมบุตรด้วยการสั่งสอน
และเตือนสติตามหลักธรรมของพระเป็นเจ้า” (เอเฟซัส 6:4)
บนบาน ประตูแห่งโอกาส ย่อมมีเขียนว่า
“ผลัก” หรือ “ดึง”
“วิญญาณของคนเกียจคร้าน มีความอยากได้ แต่ไม่ได้อะไรเลย
ฝ่ายวิญญาณของคนขยัน จะอ้วนพี” (สุภาษิต13:4)
คนเราจะมีชัยมิได้ หากไร้การเริ่มต้น.
“เมื่อท่านมีใจพร้อมอยู่แล้ว
ท่านจะได้ทำให้สำเร็จตามความสามารถของท่าน”
(2 คร 8:11)
หนทางสู่ความ สำเร็จ คือการนำเอาคำแนะนำ
ที่ท่านมอบให้ผู้อื่น มาใช้กับตัวท่านเอง.
“ท่านที่ไม่สนใจกับกฎวินัย ย่อมดูหมิ่นตนเอง
แต่บุคคลที่รับฟังคำตักเตือน ก็จะได้รับความเข้าใจ”
(สุภาษิต 15:32)
คนเขาจะรู้ว่าท่านเป็นใคร มิใช่จากสิ่งที่เขาเห็น
แต่จากสิ่งที่เขาได้ ยินจากปากของท่าน.
ให้ความสว่างของท่าน จงฉายแสงต่อหน้ามนุษย์
เขาจะได้เห็นกิจการที่ดีงามของท่าน
เขาจะได้ถวายพระเกียรติ แด่พระบิดาเจ้าของท่าน
ผู้ประทับอยู่ในสวรรค์ (มัทธิ 5:16)
บ่อยครั้งมนุษย์คิดว่าจิตใจเขาเปิดกว้างขึ้น
อันที่จริงแล้ว มโนธรรมเขาต่างหากที่ยืดออก.
สำหรับผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ ทุกอย่างก็ย่อมบริสุทธ์ผุดผ่อง
แต่สำหรับผู้มีใจชั่วร้ายและไร้ความเชื่อ ไม่มีอะไรเลยที่บริสุทธิ์
ทั้งจิตใจและมโนธรรมของผู้นั้น ถูกทำลายไปหมดแล้ว (ทิตัส 1:15)
ความโมโหมักทำให้เราตกอยู่ในความลำบาก
แต่ความหยิ่งต่างหาก
ที่ทำให้เราอยู่ในสภาพนั้น
ความเย่อหยิ่งมาก่อนการถูกทำลาย จิตใจที่ยโสมักจะมาก่อนการหกล้ม
การมีจิตถ่อมตนกับคนยาก ดีกว่า ที่จะได้ส่วนแบ่งจากของที่ริบมาจากคนหยิ่ง
(สุภาษิต 16:18,19)