เราดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยสิ่งที่เราได้รับ
แต่เรา กลับเป็นผู้มอบชีวิต เมื่อเราเป็นผู้ให้
ข้าพเจ้าได้ให้ตัวอย่างแก่ ท่านแล้วในทุกสิ่ง ให้ท่านเห็นว่าการกระทำดังนี้
ท่านจะสามารถช่วยผู้ที่ อ่อนแอ ท่านจงรำลึกถึงพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ตรัสว่า
“การให้ย่อมได้ บุญมากกว่าการรับ” (กิจการ 20:35)
แต่ละวันที่ผ่านไป คล้ายกับกระเป๋าที่มีขนาดเท่ากัน
คนบางคนสามารถใส่ ข้าวของเข้าไป
ในกระเป๋านั้นมากกว่าผู้อื่น.
ดังนั้นท่านจงระมัด ระวัง ในการดำเนินชีวิต อย่าให้เหมือนคนไร้ปัญญา
แต่ให้เหมือนผู้มีปัญญา จงฉวยทุกโอกาสที่ผ่านเข้ามา (เอเฟซัส 5:15,16)
ชีวิตคงจะง่ายขึ้นมาก
หากคนเราแสดงความอดทนในครอบครัว
ให้เท่ากับเวลาที่เขาไปนั่งตกปลา.
ท่านที่เป็นสามี ก็จงอยู่กับภรรยาของท่าน ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน
(1เปโตร 3:7)
ความร่ำรวยของคนเรา มิได้อยู่ที่ว่าเรามี
ทรัพย์สินเงินทองมากมายเพียงใด
แต่ ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นคนอย่างไร.
บางคนไม่มีอะไรเลย แต่แสร้งทำเป็นคนร่ำรวย
แต่บางคนมีทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ก็แสร้งทำเป็นคนจน (สุภาษิต 13:7)
การให้อภัยคล้ายกับเป็น การปล่อยนักโทษให้
เป็นอิสระ แล้วมาพบว่า
นักโทษนั้นก็คือ “ตัวคุณเอง”
หากท่านให้อภัยผู้ที่กระทำผิดต่อท่าน พระบิดาเจ้าก็จะทรงให้อภัยท่านด้วย
แต่หากท่านไม่ให้อภัยผู้อื่น พระบิดาของท่านก็จะไม่ทรงให้อภัยแก่ท่านเช่นกัน
(มัทธิ 6:14,15)
ท่านคลุกคลีกับใคร ก็ย่อมจะบ่งให้เห็นว่า
ท่านกำลังจะพบกับความยุ่งยากอย่างไร.
อย่าไปผูกมิตรกับคนที่โกรธง่าย ท่านอาจจะเป็นเหมือนเขา
และ ติดอยู่ในกับดัก (สุภาษิต 22:24,25)
หัวใจมีความสุขมากที่สุด
เมื่อมันเต้นเพื่อคนอื่น.
ไม่มีผู้ใดมีความรักเท่ากับ ผู้ที่ยอมสละชีวิตของตนเองเพื่อผู้อื่น
(ยอห์น 15:13)
บทเรียนจากการมองดูนาฬิกาก็คือ
มันทำให้เวลาผ่านไปก็จริง
แต่มันขยัน ทำงานตลอดเวลา.
การเป็นคนเกียจคร้าน ก็ไม่แตกต่างอะไรกับคนที่ชอบทำลาย
(สุภาษิต 18:9)