ศตวรรษของปีศาจ : คุณสมบัติของผู้ที่จะขับผี [3]

การไล่ผี ปีศาจ เป็นดังสงครามระหว่างความดี กับ ความชั่ว ระหว่างผีปีศาจกับบาทหลวงผู้ประกอบการไล่ผีนั้น

ในบางสถานการณ์ บาทหลวงต้องเจอกับควมบ้าคลั่ง การประจญล่อหลอก แม้กระทั่งการที่ผู้ถูกผีสิงเผยถึง บาป ความผิด หรือสิ่งที่น่าอับอายที่ บาทหลวงท่านนั้นได้เคยกระทำมา เพื่อบั่นทอนสภาพจิตใจและความเชื่อของบาทหลวงท่านนั้น

การไล่ผี เป็นเสมือนการสืบสวนผู้ต้องหา
บาทหลวงต้องบังคับ และซักถามปีศาจตนนั้นให้มันเอ่ยนามของมันออกมา แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จิตชัวร้ายนั้นๆ จะยอมเชื่อฟังแต่โดยดี

บาทหลวงต้องสวดภาวนา ไปพร้อมกับการขู่เข็ญซักถามปีศาจในเรื่องต่างๆ เช่น “เจ้าเป็นใคร ?” “เจ้าเข้าสิงคนผู้นี้ด้วยเหตุอันใด ?” “เจ้าเข้าสิงเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?” “เจ้าจะออกจากคนผู้นี้เมื่อไหร่? โดยคำถามเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการไล่ผี และการบังคับให้มันเอ่ยนามของมันออกมา โดยอาศัยพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า

เป็นการยากที่การไล่ผีจะสำเร็จในทีเดียว บางรายใช้เวลาเป็นเดือน หรือ เป็นปีเลยทีเดียว

และในกรณีของคุณพ่อ อามอร์ธ เคยมีบุคคลที่ต้องอาศัยการไล่ผียาวนานถึง 16 ปีเลยทีเดียว
บางกรณีอาจไม่สามารถไล่ผีให้หายขาด ออกจากร่างของเหยื่อโดยสมบูรณ์ได้ แต่เหยื่อที่ถูกสิงก็กลับมาเข้มแข็งพอที่จะใช้ชีวิตอย่างปกติได้

คุณสมบัติของผู้ที่จะขับผี

–   เป็นผู้ที่ไม่ตกในบาปหนัก หรือถูกประจญล่อลวงง่าย เพราะปีศาจสามารถใช้จุดอ่อนตรงนี้มาเล่นงานให้ความเชื่อหวั่นไหวได้ จะเป็นการดีเป็นอย่างยิ่งถ้าผู้ทำการไล่ผี หรือ บาทหลวงผู้นั้นได้อุทิศตนให้กับแม่พระด้วย เพราะแม่พระคือคู่ปรับตลอดกาลของซาตาน

–   เป็นผู้ที่มุมานะ มีความพากเพียรอดทน ไม่ย่อถ้อต่ออุปสรรคหรือความผิดหวังล้มเหลว เพราะการจะขับไล่ผีปีศาจมิอาจสำเร็จได้ง่ายๆ เพียงครั้งเดียว บางครั้งต้องอาศัยพิธีกรรมและความพยายามอย่างเป็นที่สุด และต้องผจญกับการประจญความยากลำบากมากมาย ดังนั้นบาทหลวงผู้นั้นต้องมีความุมานะอุตส่าหะที่จะไม่ยอมจำนน หรือยอมแพ้ ล้มเลิกไปกลางคลันเสียก่อน

–   มีวิจารณญาณรอบคอบ สามารถแยกแยะได้อย่างเที่ยงตรงพอว่าเหยื่อนั้นเป็นผู้ถุกสิงจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงอาการประสาทหลอน จิตหลอนคิดไปเอง หรืออาการป่วยทางจิตอื่นๆ

–   ต้องมีความรู้ทางศาสนาและความหนักแน่นเพียงพอ สามารถสวดภาวนา และ ประกอบพิธีกรรมในพระนามของพระเจ้าได้อย่างถูกต้อง ด้วยความหนักแน่น ไม่หวั่นไหว แม้ว่าระหว่างการประกอบพิธีจะเจอการประจญ หรือเหตุเหนือธรรมชาติใดปรากฏขึ้นมาก็ตาม แน่นอน ต้องไม่ยอมแพ้หรือหวั่นไหวต่อพวกคุณไสย อาคมมนต์ดำทั้งหลายที่อาจประสบด้วย

–   ต้องสามารถทำพลีกรรม เช่น การอดอาหาร การสวดภาวนาอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมสำหรับความทุกข์ทรมานทั้งทางกายและทางจิตใจที่อาจประสบได้

–   ควรมีอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์สำหรับช่วยในการไล่ปีศาจ เช่น ไม้กางเขน พระคัมภีร์ สายประคำ ภาพของพระเยซู หรือ แม่พระ รวมถึงน้ำเสกที่ใช้พรมก่อนเริ่มพิธีทุกครั้ง และ สำหรับบาทหลวงผู้ประกอบพิธีสมควรสวมเครื่องทรงครบชุด อันประกอบไปด้วย Cassock / Surplice และ Stole สีม่วง

–   ควรประกอบพิธีในสถานที่ที่เหมาะสม เช่นห้องเล็กๆ วัดน้อย หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์  จำกัดจำนวนคนที่เข้าร่วม และไม่ควรทำแบบเปิดเผยต่อสาธารณะชนทั่วไป