Content : เลือกอ่านตามหัวข้อ
นักบุญคาร์โล อาคูติส: ต้นแบบเยาวชนคาทอลิกแห่งยุคดิจิทัล
ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เรื่องราวของเยาวชนคนหนึ่งผู้ใช้พรสวรรค์ด้านคอมพิวเตอร์ในการประกาศข่าวดีได้สร้างแรงบันดาลใจไปทั่วโลก เขาคือ “คาร์โล อาคูติส” เด็กหนุ่มธรรมดาที่มีความศรัทธาไม่ธรรมดา จนกำลังจะได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญแห่งพระศาสนจักรคาทอลิกในปี ค.ศ. 2025 นี้

ชีวประวัติโดยสังเขปของคาร์โล อาคูติส
คาร์โล อาคูติส (Carlo Acutis) เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1991 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในครอบครัวชาวอิตาเลียนที่ย้ายกลับไปตั้งถิ่นฐานในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลีหลังเขาเกิดได้ไม่นาน แม้จะเติบโตเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป – ไปโรงเรียน ท่องเที่ยว เล่นกีฬา และวิดีโอเกม – แต่คาร์โลมีใจรักในความเชื่อคริสต์ตั้งแต่วัยเยาว์ เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนเยซูอิตในมิลาน และแสดงความศรัทธาต่อศาสนาอย่างเข้มแข็งตั้งแต่ยังเล็ก โดยเข้าร่วมพิธีมิสซาและรับศีลมหาสนิทเป็นประจำ
ความศรัทธาอันแรงกล้า: คาร์โลหลงใหลในองค์พระเยซูคริสต์เป็นพิเศษ เขาถือว่าศีลมหาสนิท (Eucharist) เป็น “ทางด่วนสู่สวรรค์” ที่หล่อเลี้ยงชีวิตจิตของเขา เขามีใจรักในการภาวนา รักแม่พระมารีย์และสายประคำ อีกทั้งยังศรัทธาในนักบุญหลายองค์ที่เป็นแบบอย่างชีวิตของเขา ความศรัทธาเหล่านี้หล่อหลอมให้คาร์โลเป็นเด็กหนุ่มจิตใจงามที่รักพระเจ้าอย่างสุดใจ
ใช้พรสวรรค์เพื่อพระเจ้า: นอกจากชีวิตด้านจิตวิญญาณ คาร์โลยังมีพรสวรรค์ด้านคอมพิวเตอร์ เขาเริ่มสนใจศึกษาปาฏิหาริย์ศีลมหาสนิททั่วโลกตั้งแต่อายุเพียง 11 ปี งานอดิเรกของเขาคือการค้นคว้างานวิจัยทางศาสนาและรวบรวมข้อมูลปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจริงในวัดต่าง ๆ คาร์โลได้ใช้ทักษะไอทีสร้างเว็บไซต์รวบรวม “ปาฏิหาริย์ศีลมหาสนิท” จากหลากหลายประเทศ เพื่อให้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ทางออนไลน์ ความตั้งใจของเขาคือเผยแพร่ความจริงว่าพระเยซูทรงประทับอยู่จริงในศีลมหาสนิท และกระตุ้นความเชื่อของคริสตชนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
ชีวิตรักเพื่อนมนุษย์: แม้จะเป็นวัยรุ่นยุคใหม่ คาร์โลก็มิได้ใช้ชีวิตอยู่แค่ในโลกออนไลน์เท่านั้น เขายังเอาใจใส่คนรอบข้างอย่างน่าประทับใจ ในโรงเรียนเขาคอยปกป้องเพื่อนที่ถูกรังแก และเป็นมิตรกับทุกคนที่ได้พบ นอกจากนี้ เขายังอุทิศตนช่วยเหลือผู้ยากไร้ในชุมชนอยู่เสมอ คาร์โลเคยเก็บเงินค่าขนมของตนเองเพื่อซื้ออาหารและของใช้ให้คนไร้บ้าน และอาสาช่วยทำความสะอาดวัดใกล้บ้านเป็นประจำ นิสัยรักเพื่อนมนุษย์นี้ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก (มารดาของเขาเคยให้สัมภาษณ์ผ่าน CNN ว่าคาร์โลเริ่มช่วยเหลือผู้อื่นตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ)
ความเชื่อของเยาวชนยุคดิจิทัล
ในฐานะเยาวชนที่เติบโตมาในยุคอินเทอร์เน็ต คาร์โล อาคูติส ได้พิสูจน์ว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการประกาศข่าวดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขามองว่าอินเทอร์เน็ตไม่ใช่สิ่งที่ขัดกับความเชื่อ หากแต่เป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานมาเพื่อใช้ในทางที่ดีได้ ดังนั้นเขาจึงผสาน “ความเป็นวัยรุ่นดิจิทัล” เข้ากับ “ชีวิตคริสตชน” อย่างกลมกลืน
อินฟลูเอนเซอร์ของพระเจ้า: คาร์โลเริ่มเผยแพร่ความเชื่อผ่านสื่อสังคมออนไลน์และเว็บไซต์ตั้งแต่วัยรุ่น เนื้อหาของเขาทั้งให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจแก่เพื่อนเยาวชนจำนวนมาก ผลงานออนไลน์ของเขาได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจนสื่อตั้งฉายาให้คาร์โลว่าเป็น “อินฟลูเอนเซอร์ของพระเจ้า” หรือ “God’s influencer” ด้วยวัยเพียงสิบกว่าปีคาร์โลก็มีผู้ติดตามที่ชื่นชมในความศรัทธาและความคิดสร้างสรรค์ของเขาเป็นจำนวนมาก แม้แต่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเองยังเคยกล่าวถึงคาร์โลว่าช่างเป็นเยาวชนที่ “เข้าถึงความต้องการของยุคสมัย” ได้เป็นอย่างดี
ต้นแบบแห่งโลกออนไลน์: สิ่งที่ทำให้คาร์โลโดดเด่นคือการเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้โซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีโดยไม่ละทิ้งความศักดิ์สิทธิ์ส่วนตน เขาแสดงให้เห็นว่า “เราสามารถเป็นนักบุญได้ท่ามกลางชีวิตประจำวัน” แม้จะท่องโลกอินเทอร์เน็ตก็ตาม คาร์โลเคยกล่าวถ้อยคำที่กลายเป็นแรงบันดาลใจแก่คนทั่วโลกว่า “ทุกคนเกิดมาเป็นต้นฉบับ แต่หลายคนกลับเลือกที่จะเป็นสำเนา” – คือการเตือนใจให้เราเป็นตัวของตัวเองในทางที่ดีงาม แทนที่จะลอกเลียนตามโลกจนสูญเสียเอกลักษณ์และคุณค่าที่พระเจ้าประทานมา คำพูดนี้สะท้อนชีวิตของคาร์โลเองที่เลือกเดินตามพระคริสต์อย่างต้นฉบับของตน โดยไม่ยอมแพ้ต่อกระแสค่านิยมที่ไม่ดีในสังคมออนไลน์
การเจ็บป่วย การจากไป และเส้นทางสู่ความศักดิ์สิทธิ์
เส้นทางชีวิตของคาร์โลกลับต้องสะดุดลงอย่างกะทันหัน เมื่อในปี ค.ศ. 2006 ขณะที่เขาอายุได้เพียง 15 ปี คาร์โลถูกตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน การเจ็บป่วยรุนแรงครั้งนี้มิอาจทำลายความเชื่อมั่นในพระเจ้าในใจเขาได้ มีบันทึกว่าคาร์โลได้กล่าวกับครอบครัวในช่วงสุดท้ายของชีวิตว่า “ผมขอถวายความทุกข์ทรมานนี้แด่พระเยซูเจ้า แด่พระสันตะปาปา และแด่พระศาสนจักร” แสดงถึงการยอมรับแบกรับไม้กางเขนร่วมกับพระคริสต์ด้วยใจศรัทธา
คาร์โล อาคูติส เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2006 ที่เมืองมอนซา ประเทศอิตาลี รวมอายุได้เพียง 15 ปี การจากไปของเขานำมาซึ่งความโศกเศร้าแก่ครอบครัวและผู้คนรอบข้าง แต่ขณะเดียวกันแบบอย่างความศรัทธาของเขาก็ได้จุดประกายแสงสว่างให้แก่พระศาสนจักรอย่างน่าอัศจรรย์
หลังพิธีปลงศพ ร่างของคาร์โลถูกฝังไว้ที่เมืองอัสซีซี ดินแดนของนักบุญฟรังซิสผู้เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจของเขา ปัจจุบันร่างของคาร์โลได้รับการเก็บรักษาไว้ในโลงแก้วที่โบสถ์ซานตามาเรีย มาจอเร (Chiesa di Santa Maria Maggiore) เมืองอัสซีซี ประเทศอิตาลี (ตามภาพ) เพื่อให้สัตบุรุษและผู้จาริกแสวงบุญได้ไปร่วมสักการะ ขณะเปิดโลงในช่วงพิธีสถาปนาเป็นบุญราศีเมื่อปี 2020 ร่างของเขาพบว่าไม่เน่าเปื่อย (ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดี) ทำให้ผู้คนยิ่งศรัทธาเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ของเยาวชนผู้นี้มากขึ้น
จากบุญราศีสู่นักบุญยุค 2000
ชื่อเสียงด้านความศรัทธาและคุณงามความดีของคาร์โลทำให้หลังจากเขาถึงแก่กรรมไม่นาน ผู้คนก็เริ่มถวายคำภาวนาเพื่อวอนขอพระเจ้าโดยผ่านทางเขา เกิดเหตุอัศจรรย์หลายประการที่เชื่อว่าเป็นผลจากคำวอนขอของคาร์โล ซึ่งนำไปสู่กระบวนการสอบสวนเพื่อแต่งตั้งให้เขาเป็นบุญราศี (Blessed) และนักบุญของพระศาสนจักร
การประกาศเป็นบุญราศี: คาร์โล อาคูติส ได้รับการประกาศเป็นบุญราศีเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 2020 ณ มหาวิหารนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงมอบหมายให้พระคาร์ดินัลอากุสติโน วัลลีนี เป็นประธานในพิธีดังกล่าว การเป็นบุญราศีหมายความว่าพระศาสนจักรยืนยันว่าเขาได้เข้าสู่สวรรค์และสามารถวิงวอนขอพรจากพระเจ้าเพื่อมนุษย์โลกได้ ขั้นตอนนี้เป็นก้าวสำคัญก่อนการสถาปนาเป็นนักบุญอย่างสมบูรณ์
ปาฏิหาริย์ที่ได้รับการรับรอง: สำหรับการสถาปนาเป็นบุญราศี พระศาสนจักรได้พิจารณารับรองปาฏิหาริย์หนึ่งกรณี คือเหตุการณ์ที่เด็กชายชาวบราซิลคนหนึ่งซึ่งป่วยด้วยความผิดปกติแต่กำเนิดที่ตับอ่อนหายเป็นปกติอย่างอัศจรรย์ หลังมารดาของเด็กได้ภาวนาวอนขอผ่านทางคาร์โลเมื่อปี 2013 กรณีนี้ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในปี 2019 และนับเป็นปาฏิหาริย์ครั้งแรกโดยคำเสนอวิงวอนของคาร์โล อาคูติส
หลังเป็นบุญราศี คาร์โลยังคงร่วมอธิษฐานช่วยเหลือผู้วอนขอต่อไป มีการสอบสวนปาฏิหาริย์ครั้งที่สองซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2022 หญิงชาวคอสตาริกาคนหนึ่งเดินทางมาภาวนาหน้าหลุมศพของคาร์โล เพื่อขอพรให้บุตรสาวที่บาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุพ้นขีดอันตราย ผลปรากฏว่าบุตรสาวของเธอฟื้นตัวอย่างน่าอัศจรรย์ทั้งที่แพทย์เคยคาดว่าอาจไม่รอด เหตุการณ์นี้ได้รับการรับรองในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2024 ทำให้กระบวนการสถาปนาคาร์โลเป็นนักบุญก้าวหน้าไปอีกขั้น
เตรียมสถาปนาเป็น “นักบุญ”: ในที่สุด ที่ประชุมพระคาร์ดินัลได้มีมติเป็นเอกฉันท์รับรองให้สถาปนา บุญราศีคาร์โล อาคูติส ขึ้นเป็นนักบุญของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก โดยพิธีสถาปนาจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2025 ณ นครรัฐวาติกัน ในช่วงการเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์พอดี นับเป็นนักบุญที่เกิดใน ยุคปี 2000 (Generation Y) คนแรกของโลก ซึ่งหลายสื่อจึงขนานนามท่านว่า “นักบุญมิลเลนเนียล” (Millennial Saint) หรือ นักบุญแห่งยุคดิจิทัล เพราะท่านเกิดปี 1991 อยู่ในยุคเดียวกับเยาวชนปัจจุบันและใช้ชีวิตสัมพันธ์กับเทคโนโลยีดิจิทัลมาโดยตลอด
คุณงามความดีและแรงบันดาลใจที่ทิ้งไว้
ชีวิตอันสั้นของคาร์โล อาคูติส ได้ฝากคุณค่าและแรงบันดาลใจยิ่งใหญ่ไว้แก่โลก ต่อไปนี้คือคุณงามความดีบางประการของท่านที่เยาวชนและคริสตชนทุกวัยสามารถยึดถือเป็นแบบอย่าง:
ความรักในศีลมหาสนิท: คาร์โลเรียกศีลมหาสนิทว่า “ทางด่วนสู่สวรรค์” เพราะเชื่อว่าการรับพระกายและพระโลหิตของพระคริสต์จะทำให้เราใกล้ชิดพระเจ้ามากที่สุด เขาเข้าร่วมมิสซาและเฝ้าศีลมหาสนิทเป็นประจำ กระตุ้นให้เราตระหนักถึงความสำคัญของศีลศักดิ์สิทธิ์นี้ในชีวิตคริสตชน
การใช้เทคโนโลยีเพื่อพระเจ้า: ท่านแสดงให้เห็นว่าอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียสามารถใช้เพื่อประกาศข่าวดีได้ คาร์โลสร้างเว็บไซต์เผยแพร่ปาฏิหาริย์และข้อคิดทางความเชื่อ ส่งเสริมให้เยาวชนใช้สื่อออนไลน์ในทางสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ไม่ใช่เพื่อความสนุกหรือความนิยมส่วนตัวเท่านั้น
ชีวิตเรียบง่ายและใจเอื้อเฟื้อ: แม้คาร์โลจะเติบโตในครอบครัวที่มีฐานะดี แต่เขากลับมีชีวิตสมถะ เรียบง่าย ไม่ยึดติดวัตถุ ท่านแบ่งปันสิ่งของแก่ผู้ยากไร้และปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม สิ่งนี้เตือนใจเราถึงการมีเมตตากรุณาและแบ่งปันกับเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส
เป็นต้นแบบเยาวชนยุคใหม่: คาร์โลพิสูจน์ว่า “ความศักดิ์สิทธิ์หาได้ในชีวิตประจำวัน” เยาวชนสามารถเป็นนักบุญได้โดยไม่จำเป็นต้องอยู่นอกโลกปัจจุบัน ท่านรักษาความเชื่อในพระเจ้าอย่างมั่นคงท่ามกลางกระแสสังคมยุคใหม่ เป็นกำลังใจให้วัยรุ่นยุคดิจิทัลดำเนินชีวิตดีงามและยึดมั่นในคุณธรรม แม้อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อใจ
คุณงามความดีเหล่านี้ของนักบุญคาร์โล อาคูติส กำลังสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คนมากมายทั่วโลก โดยเฉพาะเยาวชนคาทอลิกที่มองเห็นในตัวเขาว่า “คนรุ่นเราเองก็เป็นนักบุญได้” เมื่อเดินตามรอยพระเยซูด้วยใจร้อนรน

พระธาตุของนักบุญคาร์โลในประเทศไทย
ในโอกาสเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 ข่าวดีสำหรับคริสตชนไทยก็คือ พระธาตุของบุญราศีคาร์โล อาคูติส (ที่จะเป็นนักบุญในเร็ว ๆ นี้) ได้ถูกอัญเชิญมายังประเทศไทย เพื่อให้สัตบุรุษได้ร่วมสักการบูชาและระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน โดยสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทยได้อัญเชิญ ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ และ รูปแม่พระแห่งกรุงโรม (สัญลักษณ์ประจำวันเยาวชนโลก) พร้อมด้วยพระธาตุของคาร์โล อาคูติส เดินทางจาริกไปยัง 11 สังฆมณฑลทั่วประเทศ ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม 2025
สำหรับในเขตอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ มีกำหนดจัดพิธีบูชาขอบพระคุณและนมัสการพระธาตุนักบุญเยาวชนผู้นี้ ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก ในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2025 เวลา 16.00 น. (ตรงกับวันพิธีสถาปนาท่านเป็นนักบุญที่โรมพอดี) ก่อนที่พระธาตุและไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์จะถูกอัญเชิญจาริกไปยังสังฆมณฑลอื่น ๆ ต่อไป
ผู้มีจิตศรัทธาสามารถเข้าร่วมสวดภาวนาและสัมผัสประสบการณ์แห่งพระพรผ่านทางพระธาตุของท่านได้ในวันและเวลาดังกล่าว รวมถึงตามกำหนดการจาริกในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ประกาศโดยแต่ละสังฆมณฑล


บทภาวนาวอนขอนักบุญคาร์โล อาคูติส
เมื่อเราเชื่อว่านักบุญอยู่ร่วมภาวนาวอนขอต่อพระเจ้าเพื่อเราได้ บทภาวนาต่อบุญราศี (นักบุญ) คาร์โล อาคูติส ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างคำทูลขอเพื่อวอนขอพระพรผ่านคำเสนอวิงวอนของท่าน:
“ข้าแต่พระเจ้า พระบิดาของข้าพเจ้า
ขอบพระคุณพระองค์ที่ประทานแบบอย่างชีวิตของเยาวชนอย่าง คาร์โล อาคูติส ให้แก่เรา ซึ่งเปี่ยมด้วยความรักต่อทุกคน
พระองค์ทรงทำให้เขาหลงรักพระเยซูเจ้า พระบุตรสุดที่รักของพระองค์
โดยให้ศีลมหาสนิทเป็น ‘ทางด่วนสู่สวรรค์’ ของเขา
พระองค์ประทานพระนางมารีย์ผู้ทรงรักใยอย่างยิ่งให้เป็นมารดาของเขา
และด้วยสายประคำ พระองค์ได้ทำให้เขาเป็นดั่งกวีแห่งความอ่อนโยนของพระแม่
โปรดทรงรับฟังคำภาวนาของเขาเพื่อเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อผู้ยากไร้ต่ำต้อยที่เขารักและเคยช่วยเหลือ
และโปรดประทานพระหรรษทานที่ข้าพเจ้าวอนขอ (……ระบุความตั้งใจ……) ผ่านคำวอนขอของคาร์โล
สุดท้ายนี้ ขอให้ความชื่นชมยินดีของเราจงเต็มเปี่ยม
เมื่อพระองค์จะทรงสถาปนาให้คาร์โลอยู่ท่ามกลางหมู่นักบุญของพระศาสนจักร
เพื่อรอยยิ้มของเขาจะได้เปล่งประกายแก่โลกอีกครั้ง
เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์แห่งพระนามของพระองค์ อาเมน”
(หลังจบคำภาวนา สวดบท “ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้า” 1 จบ “วันทามารีย์” 1 จบ และ “พระสิริรุ่งโรจน์” 1 จบ)
ติดตามข่าวสารและก้าวไปด้วยแรงศรัทธา
เรื่องราวของนักบุญคาร์โล อาคูติส สะท้อนให้เห็นว่าเยาวชนในยุคดิจิทัลก็สามารถเป็นศิษย์แท้ของพระคริสตเจ้าได้อย่างน่าชื่นชม เพียงมีความศรัทธามุ่งมั่นและตั้งใจใช้พรสวรรค์เพื่อรับใช้พระเจ้า ท่านเป็นแรงบันดาลใจแก่เราทุกคนให้กล้าที่จะดำเนินชีวิตอย่าง “ต้นฉบับ” ในแบบฉบับของพระองค์เอง โดยไม่ลอกเลียนตามค่านิยมผิด ๆ ของโลก
Thai Catholic Hub ขอเชิญชวนผู้อ่านติดตามบทความเสริมศรัทธาเช่นนี้ได้ทางเว็บไซต์ของเรา ซึ่งนอกจากจะมีสาระความรู้ด้านความเชื่อแล้ว ยังมีข่าวสารอัพเดทในแวดวงคาทอลิกทั้งไทยและต่างประเทศให้ได้ติดตามอยู่เสมอ ในโอกาสการสถาปนาคาร์โลเป็นนักบุญปีนี้ ฮับของเรายังเตรียมจัด แคมเปญกิจกรรมสนุก ๆ ผ่านทางเฟซบุ๊ก เพื่อร่วมเฉลิมฉลองและรับพรจากนักบุญองค์อุปถัมภ์ของเราอีกด้วย อย่าพลาดที่จะกดติดตาม Thai Catholic Hub เพื่อร่วมเดินไปบนหนทางแห่งความเชื่อพร้อมกับพวกเรา และเสริมแรงศรัทธาให้ก้าวหน้าในยุคดิจิทัลไปด้วยกันค่ะ
Cr. Youtube : Vatican News
Credit :
ข้อมูลอ้างอิงจาก : vaticannews.va , bangkokbiznews.com , en.wikipedia.org
เรียบเรียงใหม่ : Thai Catholic Hub
ภาพประกอบ :